คืนวันนี้มีเกมฟุตบอลสองแมตช์ที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับแฟนๆ ลิเวอร์พูล ทั่วโลก เพราะนอกเหนือจากเกม เอฟเอ คัพ รอบสี่ ที่จะดวลกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ตอนหัวค่ำแล้ว ช่วงดึกในเวลา 02.00 น. มีเกม แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2021 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง เซเนกัล กับ อียิปต์ อีกด้วย ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า เป็นการฟาดฟันกันเองระหว่างสองยอดดาวยิง “หงส์แดง” อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่อยู่ฝั่ง อียิปต์ และ ซาดิโอ มาเน่ ของ เซเนกัล แน่นอนว่า ผู้สมหวังจะมีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น (หวังว่าจะไม่เคืองกันนะ) และนี่คือเกร็ดที่น่าสนใจ 10 ข้อสำหรับเกมนี้
– อียิปต์ เป็นทีมที่คว้าแชมป์รายการนี้มากสุดที่จำนวน 7 สมัย ตรงกันข้ามกับ เซเนกัล ที่ยังไม่ได้แชมป์แม้แต่สมัยเดียว แถมผิดหวังในเกมรอบชิงฯ มาแล้วสองหน ซึ่งก็รวมถึงครั้งล่าสุดเมื่อปี 2019 (แพ้ แอลจีเรีย 0-1)
– นี่คือการเข้ารอบชิงฯ หนที่ 10 ของ อียิปต์ และแน่นอนว่า นี่คือหนที่ 3 สำหรับ เซเนกัล
– นี่จะเป็นหนที่ 5 ที่ อียิปต์ กับ เซเนกัล เจอกันในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ และถือเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 2006 ที่ อียิปต์ เชือด เซเนกัล 2-1 ในรอบรองฯ ก่อนไปถึงตำแหน่งแชมป์ในปีดังกล่าว (รอบชิงฯ ดวลจุดโทษชนะ ไอวอรี่ โคสต์ 4-2 หลังเสมอกัน 0-0 ใน 120 นาที)
– 4 ครั้งก่อนหน้านี้ที่เจอกัน อียิปต์ และ เซเนกัล ชนะฝั่งละ 2 หนเท่ากัน โดย 3 จาก 4 นัดที่เจอกัน จบลงด้วยสกอร์ 1-0 (อียิปต์ ชนะในปี 2000 ส่วน เซเนกัล ชนะในปี 1986 และ 2002)
– เซเนกัล ฟาดแข้งในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ เป็นครั้งที่ 16 ซึ่งไม่มีทีมไหนที่ลงเล่นมากกว่าพวกเขาและยังไม่ได้แชมป์ ดังนั้นหนนี้ทัพ “สิงโตแห่งเตรังก้า” จึงหมายมั่นปั้นมืออย่างมากที่จะคว้าแชมป์สมัยแรกให้ได้
– เป็นที่ทราบกันว่า 3 เกมรอบน็อกเอาต์ที่ผ่านมาของ อียิปต์ ต้องเตะจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษทั้งหมด ซึ่งในประวัติศาสตร์ศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ มีแค่ทีมเดียวเท่านั้น ที่เตะเกมรอบน็อกเอาต์แบบต้องต่อเวลาพิเศษ 4 นัดติด และทีมที่ว่าคือ ตูนิเซีย ช่วงระหว่างปี 2006-2015 ที่แพ้รวดทั้ง 4 หนในรอบก่อนรองฯ (ปี 2006, 2008, 2012 และ 2015) โดยเป็นการแพ้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3 หน และแพ้ดวลจุดโทษ 1 ครั้ง (ช่วงนั้นนัดแรกของรอบน็อกเอาต์ คือรอบก่อนรองฯ เลย เพราะทัวร์นาเมนต์มีแข่งขันกัน 16 ทีม โดยเพิ่งมีการเพิ่มเป็น 24 ทีม เมื่อปี 2019)
– ในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ หนนี้ เซเนกัล ทำไปแล้ว 9 ประตู จากการพยายามยิง 81 ครั้ง เทียบได้คือ 11.1% ซึ่งมีแค่ แคเมอรูน เจ้าภาพทีมเดียวเท่านั้น ที่เปลี่ยนโอกาสเป็นสกอร์ได้มากกว่าพวกเขา (12.1%, 11/91 ทั้งนี้ สถิติไม่นับรวมเกมชิงอันดับสาม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา) ส่วน อียิปต์ ทำได้แค่ 4 ประตู จากโอกาสยิง 76 หน เท่ากับ 5.3% ซึ่งถือเป็นเปอร์เซนต์ที่ต่ำสุดในบรรดา 16 ทีมที่เข้าถึงรอบน็อกเอาต์
– หากนับเฉพาะแค่ทัวร์นาเมนต์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 3 ครั้งหลังสุด (ปี 2017 ถึงครั้งปัจจุบัน) เซเนกัล คือทีมที่เก็บชัยชนะได้มากกว่าทุกทีม (11 นัด) และยังเป็นทีมที่เก็บคลีนชีตได้มากสุด (12 นัด) อีกด้วย
– นับตั้งแต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงเล่นศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ครั้งแรกในปี 2017 เขามีส่วนร่วมโดยตรงกับการลุ้นทำประตูของ อียิปต์ ถึง 68 ครั้ง (ยิงเอง 41 ครั้ง, สร้างโอกาส 27 ครั้ง) ซึ่งหากนับแค่ช่วงกรอบเวลาเดียวกัน เขาเป็นรองแค่ วาห์บี้ คาซรี่ ของ ตูนิเซีย (70 ครั้ง โดยแบ่งเป็นยิงเอง 40 ครั้ง และสร้างโอกาส 30 ครั้ง) เพียงคนเดียว
– ขณะที่ ซาดิโอ มาเน่ ก็สำคัญอย่างมากต่อ เซเนกัล เพราะเขามีส่วนร่วมโดยตรงกับการทำประตูของทีม 9 จาก 14 ลูกหลังสุด (แบ่งเป็นยิงเอง 6 ลูก กับ 3 แอสซิสต์) ในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ หรือคิดเป็น 64% เลยทีเดียว นอกจากนี้ 3 เกมที่ผ่านมา มาเน่ มีส่วนร่วมกับการทำประตูทุกนัด (2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์) อีกด้วย
อ้างอิง
https://www.siamsport.co.th/football
