โฆษกศาลฯ สอนมวย “ทนาย 3 กีบ” ราชทัณฑ์คุมตัว “ไผ่-ไมค์-รุ้ง” ไป ถือถูกต้องตามขั้นตอน

ข่าวการเมือง

(9 มี.ค.64) ภายหลังจากที่มีการนำเสนอข่าว นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการพิจารณาไม่ให้ประกันตัว 3 แกนนำกลุ่มราษฎร ทำนองว่า ขณะทำเรื่องประกันตัวซึ่งกระบวนการยื่นประกันยังไม่เสร็จสิ้น ยังมีเวลาอยู่ แต่ทางราชทัณฑ์ได้นำตัว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, นายภาณุพงศ์ จาดนอก และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา จำเลย ขึ้นรถไปควบคุมยังเรือนจำ เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) ซึ่งกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาในศาลอาญา ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดหรือเกิดความคลาดเคลื่อนสงสัยในกระบวนการยุติธรรมนั้น

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม อธิบายถึงขั้นตอนการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและการพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีกลุ่ม 18 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ว่า โดยหลักปฏิบัติ (ทุกคดี) เมื่ออัยการนำตัวจำเลยมายื่นฟ้องต่อศาลแล้ว หากศาลมีคำสั่งประทับฟ้อง จะสั่งต่อไปด้วยว่า ให้หมายขัง เว้นแต่จะมีประกัน ซึ่งหมายความว่า เมื่อศาลรับฟ้องแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ออกหมายขังจำเลยไว้ระหว่างพิจารณา หากมีการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว และศาลพิจารณาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว ศาลก็จะออกหมายปล่อยต่อไป

โดยผู้ที่มีอำนาจหน้าที่บังคับตามหมายคือราชทัณฑ์ ซึ่งการบริหารจัดการในแง่ของการนำตัวจำเลยไปควบคุมตัวนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของราชทัณฑ์ว่าจะนำตัวไปเมื่อใด อย่างไร สำหรับการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนั้น ตามกฎหมายคนที่มีสิทธิยื่นคือ ผู้ต้องหา (กรณีอยู่ระหว่างการสอบสวน), จำเลย (กรณีศาลประทับฟ้องแล้ว) และผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง

โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในขั้นตอนขอปล่อยชั่วคราวเมื่อวานดังกล่าว เป็นการยื่นโดยผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง ไม่ใช่จำเลย เมื่อได้รับคำร้องแล้วเจ้าหน้าที่ก็นำไปลงระบบในช่วงเวลา 13.00 น.เศษ จากนั้นรีบนำเสนอผู้พิพากษาที่มีหน้าที่พิจารณาคำร้องโดยเร็ว การทำงานของศาลอาญาขั้นตอนใดที่กฎหมายไม่ได้บังคับ ศาลก็พยายามจะทำให้สั้นและกระชับที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนให้เป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด

เมื่อผู้พิพากษาพิจารณาคำร้องเสร็จแล้ว จึงไปถึงขั้นตอนการแจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องขอทราบต่อไป ส่วนราชทัณฑ์ซึ่งมีหน้าที่บังคับตามหมายขัง ก็จะต้องดำเนินการนำตัวจำเลยไปควบคุมที่เรือนจำต่อไป

“ขอยืนยันว่า แม้ราชทัณฑ์จะมีอำนาจปฏิบัติตามหมายขังระหว่างพิจารณาได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งในเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ศาลได้พิจารณาและมีคำสั่งในคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว ราชทัณฑ์จึงมีการนำตัวจำเลยไป

อีกทั้งในวันนี้ (9 มี.ค.) ทางศาลอาญาได้เชิญทนายจำเลยมาอธิบายถึงขั้นตอนและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจนเป็นที่เข้าใจแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด ขอยืนยันว่าศาลปฏิบัติกับคู่ความทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการปฏิบัติที่แตกต่างกันแต่อย่างใดๆ” โฆษกศาลฯ ระบุ

แหล่งข่าว https://www.thaipost.net/main/detail/95495