(21 พ.ย.63) นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน ( iLaw) หรือ ไอลอว์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ลงบนทวิตเตอร์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
#ม112 ห้าม 1.ดูหมิ่น 2.หมิ่นประมาท3.แสดงความอาฆาตมาดร้าย
– พระมหากษัตริย์
– พระราชินี
– รัชทายาท
– ผู้สำเร็จฯ
โทษจำคุก 3-15 ปี
ใครทราบแล้ว พร้อมยืนยันเส้นเสรีภาพ พร้อมรับผลที่ตามมา ขอแสดงความนับถือ
ใครยังไม่ทราบ คึกคะนอง โดนคดีแล้วร้องไห้โวยวาย ขอให้ตั้งสติดีดีก่อนออกไป
“คนโดนจับที่ผมเคยเจอ ไม่ถึง 1 ใน 5 ที่เป็นผู้กล้า รู้ชะตากรรมอยู่แล้ว แต่ก็ยืนยันที่จะทำ
ส่วนใหญ่ที่ทำ ไม่คิดว่าจะถูกจับได้ บางคนที่ไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่อาจเตรียมตัวเตรียมใจต้องเข้าคุก แล้วผลกระทบที่ตามมามันสูงมาก
ถ้าเตือนกันดีดี แล้วจะต้องโดนด่าก็โอเค ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้เตือน”
“ว่าแล้วต้องโดนด่า ด่ามาเลย หลายคนรู้จักผมเพราะทำเรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งเพิ่งทำมาสี่ปีกว่าตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญ
แต่เรื่อง #ม112 ทำมาตั้งแต่ปี 53 หลังสลายเสื้อแดง พอใครมีชื่อในข่าวมีหมายมาที่บ้าน ก็วิ่งมาขอความช่วยเหลือ ช่วงปี 57-58 คนโดนจับหลายสิบ ขึ้นศาลทหาร ไปเยี่ยมในคุกมาทุกคน”
พอกระแส #ยกเลิก112 กลับมา อีกเรื่องที่มักตีคู่กันมา คือ การลี้ภัยทางการเมือง และมักจะเห็นความเข้าใจที่ยังผิดพลาดคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง ที่เห็นว่าถ้าถูกตั้งข้อหา #ม112 แล้วจะได้ลี้ภัยอัตโนมัติ
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ดี้ นิติพงษ์ นำทีมยื่นปอท. แจ้งจับม.112 แกนนำราษฎร นั้น นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ มีความเห็นว่า
ตามกฎหมายที่มีอยู่ตอนนี้ คดี112 ไม่ต้องแจ้งความก็ได้ ตำรวจมีหน้าที่ริเริ่มดำเนินคดีได้เองเลยโดยไม่ต้องมีใครแจ้ง คนที่ไปแบบนี้อาจจะเรียกได้ว่า “ผู้กล่าวโทษ” ถ้าหากเนื้อหาที่เอามาแจ้งไม่มีมูลตำรวจก็จะพิจารณาแล้วไม่ทำต่อ