ม็อบฮ่องกงประท้วงต้าน การแบนสวมหน้ากากร่วมชุมนุม

ฮ่องกงโมเดล - การประท้วงที่ฮ่องกง

(4 ต.ค.62)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ว่าตำรวจปราบจลาจลของฮ่องกงและกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลปะทะกันที่ย่านไท่กู๋ ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีฐานะชั้นกลาง เมื่อคืนวันพฤหัสบดี โดยรายงานของตำรวจระบุการก่อเหตุจลาจลใน 11 จุด และศูนย์การค้าอีกหลายแห่งในพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลยังคงใช้วิธียิงแก๊สน้ำตาสลับกับสเปรย์พริกไทยเพื่อควบคุมฝูงชน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวที่แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเขตบริหารพิเศษ ว่านางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารเกาะฮ่องกง เตรียมเรียกประชุมฉุกเฉินเจ้าหน้าที่คณะผู้บริหารในวันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อประกาศใช้หนึ่งในมาตราของกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน นั่นคือการห้ามสวมหน้ากากและเครื่องอำพรางใบหน้าทุกประเภทระหว่างเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง ซึ่งการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวจะเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงใช้อำนาจพิเศษ นับตั้งแต่ปี 2510 ที่ตอนนั้นฮ่องกงยังอยู่ในสถานะอาณานิคมของสหราชอาณาจักร และเซอร์เดวิด เทรนช์ ผู้ว่าการฮ่องกงในเวลานั้น ประกาศใช้อำนาจฉุกเฉินเพื่อสลายการจลาจลของกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายซ้าย โดยการชุมนุมและปะทะที่ยาวนานถึงครึ่งปีส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน

แน่นอนว่าพรรคฝ่ายค้านต่อต้านการเตรียมใช้อำนาจพิเศษครั้งนี้ของแลม ซึ่งไม่ต้องผ่านการอภิปรายและลงมติของสภานิติบัญญัติ ( เล็กโค ) และจะมีผลทันทีที่เธอประกาศอย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่าจะยิ่งเป็นการสร้างความแตกแยกและแบ่งขั้วทางการเมืองให้กับสังคมฮ่องกงที่ตอนนี้ร้าวฉานจนเกินเยียวยาแล้ว แต่ฝ่ายรัฐบาลให้เหตุผลว่า “จะเป็นการแสดงความมีวุฒิภาวะผู้นำ” ของผู้นำหญิงฮ่องกง.

เครดิตภาพ : AP, REUTERS
เครดิตข่าว https://www.dailynews.co.th/foreign/734847