ฟอร์ด ปลดแอก แฉ ถูก จนท.เฝ้าติดตาม – ชี้หากยังมี ส.ว.เจอชุมนุมใหญ่ ต.ค.แน่

ข่าวการเมือง

(26 กันยายน 2563) ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร และคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) จัดเสวนาในช่วงบ่ายหัวข้อ “เยาวชนกับการเมือง” โดยมีนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี กลุ่มเยาวชนปลดแอก น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส กลุ่มนักเรียนเลว น.ส.ทิพอัปสร แก้วมณี กลุ่มลูกพ่อขุนไม่รับใช้เผด็จการ และนายธนวัฒน์ วงค์ไชย อดีตผู้จัดงานวิ่งไล่ลุง ร่วมเสวนา

นายทัตเทพ กล่าวว่า แรงกดทับทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ทำให้เราต้องออกมาเคลื่อนไหว และตลอด 6 ปี ของการรัฐประหาร เยาวชนถูกจับกุม คุกคาม ถูกปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งส่วนตัวดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยตั้งกลุ่มเยาวชนปลดแอกขึ้นมาตั้งแต่ปี 62 ซึ่งแทบทุกครั้งที่ทำกิจกรรมจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร มาคอยติดตาม และตนก็ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายด้วย

“ผมเคยถูกคุกคามจากการติดตาม ถูกติดตามจากการดำเนินคดี ยกตัวอย่างช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ตนและเพื่อน ไปส่องไฟฉายใส่พานรัฐธรรมนูญ โดยใช้เวลาเพียง 1 นาทีเศษ หลังจากนั้นจะเดินทางกลับบ้าน มีตำรวจมาเรียกตัวไว้โดยขอดูบัตรประชาชน พร้อมพูดคุยสักพักก่อนแยกย้าย และระหว่างที่ผมโดยสารรถแท็กซี่กลับบ้าน ปรากฎว่า มีรถขับติดตามอยู่ตลอด จนภายหลังสืบจนรู้ว่า เป็นรถของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นายหนึ่ง ซึ่งผมยังไม่ขอเอ่ยชื่อ” นายทัตเทพ กล่าว

นายทัตเทพ กล่าวอีกว่า การประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ไม่มีการลงมติในญัตติเสนอแก้รัฐธรรมนูญ เป็นการไม่เห็นหัวประชาชน เป็นการปิดสมัยประชุมที่อัปยศที่สุดของรัฐสภาไทย ทั้งที่กลไกรัฐสภาจะเป็นทางออก แต่เหตุใดถึงปิดประตูรัฐสภาใส่ประชาชน เป็นการผลักประชาชนลงมาต่อสู้บนถนน ภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ จะต้องไม่มีส.ว.250 คน และการแก้รัฐธรรมนูญต้องคืบหน้า ไม่เช่นนั้นเราจะกลับมายกระดับการชุมนุมแบบใหญ่ ๆ ในเดือนต.ค.แน่นอน ขอให้ประชาชนคอยติดตาม

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองของตนทำให้ชีวิตเปลี่ยน มีทหาร ตำรวจ มาเฝ้าติดตามที่บ้านพัก และหอพัก ทุกวัน ตนก็คิดว่าหากเป็นเช่นนี้ ตนก็ออกมาเคลื่อนไหวได้ทุกวันเหมือนกัน ส่วนการประชุมรัฐสภาที่ผ่านมา ในส่วนการทำหน้าที่ของนายชวน และ 250 ส.ว.จะต้องเสียใจอย่างที่สุดที่ตัดสินใจโหวตตั้ง กมธ.เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา